• ตอบกระทู้
  • ตั้งกระทู้ใหม่
QUOTE 

รอบรู้เรื่องไขมัน

เจ้าของร้าน

การตรวจระดับไขมันในเลือด

การตรวจระดับไขมันในเลือด

เป็นที่ทราบกันดีว่า ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ และโรคอัมพาต เราจึงควรมีการตรวจวัดระดับไขมันในเลือด เพื่อป้องกันโรคเหล่านี้ โดยให้การบำบัดรักษาอย่างถูกต้องไม่ให้มีระดับไขมันในเลือดสูง

แต่ถ้าในขณะนี้ เรามีผลการตรวจเลือดอยู่ในมือ เราจะทราบได้อย่างไรว่าผลที่ตรวจได้บอกอะไร หรือตัวเลขที่ได้นั้น หมายถึงอะไร สูง-ต่ำอย่างไร

ในปัจจุบัน การตรวจวัดค่าของโคเลสเตอรอลรวม(Total Cholesterol)เพียงอย่างเดียวไม่พอเพียงในการบอกสถานะความเสี่ยงต่อโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด เราต้องการตรวจวัดระดับไขมันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ได้แก่

1.โคเลสเตอรอลรวม(Total Cho.)

2.ไตรกลีเซอไรด์(Triglyceride)

3.HDL-Cho.(ไขมันชนิดดี)

4.LDL-Cho.(ไขมันชนิดไม่ดี)

โคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesteral)

เป็นค่าที่วัดระดับโคเลสเตอรอลรวม ซึ่งมีทั้ง โคเลสเตอรอลชนิดดี และโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีปนกัน

pic_a05

โดยทั่วไประดับโคเลสเตอรอลรวมที่ตรวจพบ จะมาจาก มีโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-Cho) ประมาณร้อยละ 70 และเป็นไขมันชนิดที่ดี(HDL-Cho) ประมาณร้อยละ 17

ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)

การมีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเช่นเดียวกับโคเลสเตอรอล ไขมันที่เรารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ ไขมันที่ซ่อนอยู่ในอาหารชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่ คือไตรกลีเซอไรด์ นั่นเอง ไตรกลีเซอไรด์ที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้ามีมากเกินกว่าที่ร่างกาย

ต้องการ ไตรกลีเซอไรด์จะถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อไขมันสะสมอยู่ภายในร่างกาย

pic_a06

ไขมัน HDL (High Density Lipoprotein )

เป็นไขมันที่ทำหน้าที่จับโคเลสเตอรอลจากเซลล์ของร่างกาย และนำไปกำจัดทิ้งที่ตับ ดังนั้นจึงเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย ถ้ามีระดับ HDL-Cholesterol สูง จะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยลง

pic_a07

ไขมัน LDL (Low Density Lipoprotein)

เป็นอนุภาคที่ทำหน้าที่ขนส่งโคเลสเตอรอลไปตามกระแสเลือด LDL สามารถจับกับผนังเส้นเลือดได้ ทำให้เกิดการสะสมโคเลสเตอรอลบนผนังเส้นเลือด เพราะฉะนั้น LDL จึงเป็นอนุภาคไขมันชนิดเลว ซึ่งจะบ่งชี้ว่า เรามีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากหรือน้อย

เราสามารถตรวจวัด หาค่า LDL ได้โดยตรง หรือถ้าเรารู้ค่าของไขมันโคเลสเตอรอลรวม, ไขมันไตรกลีเซอไรด์, ไขมัน HDL เราก็สามารถหาค่า LDL ได้จากสูตร

LDL โคเลสเตอรอลรวม – HDL – (ไตรกลีเซอไรด์)

pic_a08

ตัวอย่าง

ถ้าเราตรวจได้ โคเลสเตอรอล 240 มก./ดล.

ไตรกลีเซอไรด์ 200 มก./ดล.

HDL 50 มก./ดล.

LDL = 240 – 50 – (200/5) = 150 มก./ดล.

ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการรู้ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด เราจำเป็นจะต้องรู้ระดับไขมันที่ไม่ดี คือ LDL-Cholesterol

โดย นพ. วิชัย จตุรพิตร ผู้อำนวยการ ศูนย์แพทย์อาชีวะเวชศาสตร์กรุงเทพ

QUOTE 
ความคิดเห็นที่ #1
พสิษฐ์

ยาสแตตินช่วยลดไขมันในเลือดได้จริงแต่ให้ผลข้างเคียงเยอะมาก

ยาสแตตินสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ดังนี้เช่น มีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ปวดศีรษะ ตับอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ข้อบวม มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง นอนไม่หลับ ผื่นคัน ระดับครีเอตีนฟอสโฟไคเนส (Creatine phosphokinase: CPK, เอนไซม์บอกการอักเสบของกล้ามเนื้อ) ในเลือดเพิ่มขึ้น ระดับเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มขึ้น ดีซ่าน มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง เกล็ดเลือดต่ำ เกิดภาวะเจ็บหน้าอก ซึมเศร้า ตับอ่อนอักเสบ เกิดการติดเชื้อได้ง่ายในระบบทางเดินหายใจตอนบน และลมพิษ เป็นต้น

วันนี้คุณมีทางเลือกใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีและไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ มีงานวิจัยรองรับและอยู่ใน PDR สนใจติดต่อ ไลน์ไอดี  biokhem หรือ biokhem@gmail.com

แสดงความคิดเห็นที่ 1-1 จากทั้งหมด 1 ความคิดเห็น

เว็บบอร์ดล่าสุด

CONTACT US

097-070-0645
Click

เพิ่มเพื่อน

CATEGORY

ติดตามสินค้า

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม115,804 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด85,049 ครั้ง
เปิดร้าน31 ก.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท31 ส.ค. 2568
พูดคุย-สอบถาม